Four Seasons Resort Maldives at Landaa Giraavaru เป็นรีสอร์ทหรูที่ตั้งอยู่บนเกาะ Landaa Giraavaru ในเขตสงวนชีวมณฑลยูเนสโก Baa Atoll ของมัลดีฟส์ รีสอร์ทนี้เปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2006 และดำเนินการโดยเครือโรงแรม Four Seasons รีสอร์ทครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 44 เอเคอร์ (18 เฮกตาร์) ของป่าธรรมชาติ มีวิลล่าทั้งหมด 103 หลัง แบ่งเป็นบังกะโลและวิลล่าที่ออกแบบในสไตล์ร่วมสมัยของมัลดีฟส์
ที่พักมีความหลากหลาย ตั้งแต่บังกะโลริมชายหาดไปจนถึงวิลล่าบนผืนน้ำ โดยทุกหลังมีสระว่ายน้ำส่วนตัวและพื้นที่กลางแจ้งที่กว้างขวาง การออกแบบเน้นการผสมผสานระหว่างความหรูหราและธรรมชาติ เพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์ที่ผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว
รีสอร์ทมีร้านอาหารและบาร์หลายแห่ง รวมถึง Blu Beach Club ที่เสิร์ฟอาหารอิตาเลียน และ Al Barakat ที่นำเสนออาหารตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ยังมี AyurMa ศูนย์สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งให้บริการโปรแกรมบำบัดและโยคะ
รีสอร์ทยังมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีศูนย์วิจัยทางทะเลที่ทำงานเกี่ยวกับการฟื้นฟูปะการังและการอนุรักษ์เต่าทะเล ผู้เข้าพักสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การปลูกปะการังและการเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศทางทะเล
การเดินทางไปยังรีสอร์ทสามารถทำได้โดยการนั่งเครื่องบินทะเลประมาณ 35 นาทีจากสนามบินนานาชาติมาเล ซึ่งจะมอบประสบการณ์การชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของหมู่เกาะมัลดีฟส์
Four Seasons Resort Maldives at Landaa Giraavaru เป็นสถานที่ที่ผสมผสานความหรูหรา ความเป็นส่วนตัว และการอนุรักษ์ธรรมชาติ ทำให้ผู้เข้าพักได้รับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนในสวรรค์แห่งมหาสมุทรอินเดีย
จุดเด่น |
- ที่พักหลากหลาย* มีวิลล่าริมชายหาดและวิลล่ากลางน้ำที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวและพื้นที่กลางแจ้งกว้างขวาง
- ศูนย์อนุรักษ์ทางทะเล: มีศูนย์ Marine Discovery Centre ที่เน้นการอนุรักษ์และฟื้นฟูสัตว์ทะเล เช่น เต่าทะเล และโครงการปลูกปะการัง
- กิจกรรมดำน้ำและดำน้ำตื้น: ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลสูง เหมาะสำหรับการดำน้ำชมปะการังและสัตว์ทะเล
- สปาและสุขภาพ: AyurMa สปาที่เน้นการบำบัดแบบอายุรเวท โยคะ และโปรแกรมสุขภาพที่ออกแบบเฉพาะบุคคล
- การรับประทานอาหารหลากหลาย: มีร้านอาหารหลายแห่งที่เสิร์ฟอาหารนานาชาติ เช่น อิตาเลียน อาหรับ และเอเชีย
- การเดินทางสะดวก: สามารถเข้าถึงรีสอร์ทได้โดยการนั่งเครื่องบินทะเลประมาณ 35 นาทีจากสนามบินนานาชาติมาเลโดย Seaplane ที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว “Flying Triggerfish” รับส่ง
- กิจกรรมสำหรับครอบครัว: มีคลับสำหรับเด็กและกิจกรรมที่เหมาะสำหรับทุกวัย
- มีทะเลแหวกที่สวยงามมาก
|
การเดินทาง |
- จากประเทศไทย: บินตรงสู่สนามบินนานาชาติเวลาน่า (MLE) ในมาเล่ (ประมาณ 4 ชั่วโมง 20 นาที)
- บริการรับส่ง: หลังจากถึงสนามบินมาเล่ รีสอร์ทมีบริการรับส่งด้วยเครื่องบินทะเลส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ 35 นาที พร้อมห้องรับรองวีไอพีที่ The Island Café
- เวลาเดินทางรวม: ประมาณ 5 ชั่วโมง 55 นาที (ไม่รวมเวลารอตรวจคนเข้าเมือง)
*โปรดทราบว่าเวลาเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับตารางเที่ยวบินและสภาพอากาศ |
ห้องพัก |
- Sunrise Water Villa with Pool (90 sqm)
- Sunset Water Villa with Pool (90 sqm)
- Sunrise Family Water Villa with Pool (112 sqm)
- Sunset Family Water Villa with Pool (112 sqm)
- Water Villa with Pool – Partial Sea View (90 sqm)
- Premier Oceanfront Bungalow with Pool (77 sqm)
- Family Oceanfront Bungalow with Pool (99 sqm)
- Two-Bedroom Oceanfront Bungalow – Partial Sea View (287 sqm)
- Two-Bedroom Oceanfront Villa (312 sqm)
- Beach Villa with Pool (137 sqm)
- Family Beach Villa with Pool (164 sqm)
- Sunset Two-Bedroom Water Suite (182 sqm)
- Sunrise Two-Bedroom Water Suite (182 sqm)
- Sunset Three-Bedroom Water Suite (294 sqm)
- Sunrise Three-Bedroom Water Suite (294 sqm)
- Two-Bedroom Royal Beach Villa (310 sqm)
- Four-Bedroom Landaa Estate (800 sqm)
- Three-Bedroom Land and Ocean Suite (680 sqm)
*เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีสามารถพักห้องพักกลางน้ำได้ โดยมีราวกันตกติดตั้งเพิ่มเติม |
ร้านอาหาร |
- Blu Beach Club (อาหารอิตาเลียน) ร้านอาหารริมชายหาดที่ให้บริการอาหารอิตาเลียนตลอดวัน พร้อมวิวทะเลสาบที่งดงาม เมนูอาหารค่ำได้รับการดูแลโดยเชฟ Nino Di Costanzo ที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์สองดาว
- Al Barakat (อาหารตะวันออกกลาง) ร้านอาหารเหนือผืนน้ำที่นำเสนออาหารจากภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ร่วมมือกับเชฟ Aline Kamakian จากร้าน Mayrig ที่มีชื่อเสียงในเบรุต
- Café Landaa (อาหารเอเชียและท้องถิ่น) ร้านอาหารที่มีศาลาทรงมุงจากสามหลัง ล้อมรอบด้วยสระน้ำสะท้อน บริการอาหารพิเศษจากครัวทันดูร์และแกง รวมถึงเคาน์เตอร์เทปปันยากิที่ตั้งอยู่กลางสวนสายน้ำ
- Fuego Grill (อาหารทะเลและเนื้อย่าง) ร้านอาหารริมชายหาดที่เสิร์ฟปลาสดประจำวัน เนื้อออร์แกนิก และเมนูเอเชีย หลากหลายเมนูให้เลือกสรร
- Seabar (เครื่องดื่มและทาปาส) บาร์บรรยากาศสบายๆ ตั้งอยู่บนดาดฟ้าเหนือทะเล ให้บริการมาร์การิต้าแช่แข็งและเมนูทาปาส พร้อมชมวิวปลาฉลามและปลาหลากสีสันในน้ำใสด้านล่าง
- Blu Bar (เครื่องดื่มและอาหารว่าง) บาร์ริมชายหาดที่เสิร์ฟน้ำผลไม้สด ค็อกเทลเขตร้อน และเครื่องดื่มสดชื่นอื่นๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อนก่อนหรือหลังอาหารค่ำที่ Blu Beach Club
- Shisha Bar (เครื่องดื่มและชิชา) บาร์ที่ตั้งอยู่ชั้นล่างของ Al Barakat มีบรรยากาศเปิดโล่งสู่ทะเล พร้อมโซฟาม่านและโคมไฟประดับ สร้างบรรยากาศสำหรับค็อกเทล กาแฟตุรกี และชิชา
- Poolside Bar (เครื่องดื่มและอาหารว่าง) บาร์ริมสระว่ายน้ำที่ให้บริการไวน์ ค็อกเทล และเครื่องดื่มเขตร้อนตลอดวัน พร้อมเมนูสลัด แซนด์วิช และอาหารว่างเบาๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว
- In-Villa Dining (อาหารนานาชาติ) บริการอาหารในวิลล่าที่มีเมนูหลากหลายให้เลือกสรร ตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับมื้ออาหารส่วนตัวหรือการสังสรรค์ในกลุ่ม
|
กิจกรรม |
- ดำน้ำตื้นกับกระเบนราหูและฉลามวาฬ: ร่วมสำรวจโลกใต้ทะเลที่น่าทึ่ง พร้อมชมกระเบนราหูและฉลามวาฬในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของพวกมัน
- ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกพร้อมแชมเปญ: เพลิดเพลินกับการล่องเรือยามเย็น ชมพระอาทิตย์ตกดิน พร้อมจิบแชมเปญ และอาจได้พบกับโลมาสปินเนอร์ที่มาทักทาย
- ปิกนิกส่วนตัวบนสันทรายกลางทะเล: สัมผัสประสบการณ์ปิกนิกบนสันทรายที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว พร้อมดำน้ำตื้นสำรวจปะการังและชีวิตใต้ทะเล
- สำรวจโลกใต้ทะเลด้วยเรือดำน้ำส่วนตัว: ร่วมผจญภัยใต้ทะเลลึกด้วยเรือดำน้ำส่วนตัว ชมปะการังและฝูงปลาหลากสีสันในความสะดวกสบายของห้องโดยสารที่ควบคุมอุณหภูมิ
- เรียนรู้และร่วมอนุรักษ์ที่ศูนย์การค้นพบทางทะเล: เข้าร่วมกิจกรรมปลูกปะการังและเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทะเล พร้อมโอกาสพบปะกับเต่าทะเลที่ศูนย์อนุบาลเต่า
- ผ่อนคลายที่ AyurMa สปา: ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจด้วยการนวดและบำบัดที่ผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมและสมัยใหม่ ในบรรยากาศที่เงียบสงบ
- ดินเนอร์ส่วนตัวบนสันทราย: เพลิดเพลินกับอาหารค่ำที่จัดเตรียมโดยเชฟส่วนตัว บนสันทรายที่เงียบสงบ ท่ามกลางแสงเทียนและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว
- กิจกรรมสำหรับเด็กและครอบครัว: เด็กๆ สามารถเข้าร่วมโปรแกรม “Passport to Adventure” ที่มีกิจกรรมสร้างสรรค์และการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและวัฒนธรรม
|
อัตราค่าที่พัก