Gili Lankanfushi Maldives เป็นรีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัวในหมู่เกาะมัลดีฟส์ เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ. 2012 และได้รับการยกย่องจาก TripAdvisor ให้เป็น “โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก” ในปีเดียวกัน รีสอร์ตนี้เคยดำเนินการภายใต้เครือโรงแรม Six Senses แต่ปัจจุบันดำเนินการโดย HPL Hotels & Resorts
รีสอร์ตตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย ห่างจากสนามบินนานาชาติมาเลเพียง 20 นาทีโดยเรือเร็ว มีวิลล่ากลางน้ำทั้งหมด 45 หลัง แต่ละหลังสร้างด้วยวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้สัก ไม้ไผ่ และใบปาล์ม เพื่อให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม วิลล่าแต่ละหลังมีพื้นที่พักผ่อนแบบเปิดโล่ง ระเบียงบนหลังคา และลานพักผ่อนส่วนตัวที่เชื่อมต่อสู่ลากูน
หนึ่งในวิลล่าที่โดดเด่นคือ “The Private Reserve” ซึ่งเป็นวิลล่ากลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ 1,700 ตารางเมตร ตั้งอยู่ห่างจากฝั่ง 500 เมตร ประกอบด้วยห้องนอนขนาดใหญ่ 4 ห้อง ห้องชมภาพยนตร์ส่วนตัว ห้องสปา ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ และสไลเดอร์ 2 ชั้นที่ทอดตัวลงสู่ลากูนสีฟ้าใส
รีสอร์ตมีแนวคิด “No News, No Shoes” เพื่อให้แขกได้สัมผัสกับความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีบริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่เรียกว่า “Mr. Friday” คอยดูแลและอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง
ในด้านการรับประทานอาหาร รีสอร์ตมีห้องอาหารหลักชื่อ “Kashiveli” ซึ่งตั้งอยู่บนชายหาดที่สวยงามและเงียบสงบ นำเสนออาหารนานาชาติและอาหารท้องถิ่นที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่จากสวนออร์แกนิกของรีสอร์ต นอกจากนี้ ยังมีห้องอาหาร “By The Sea” ที่เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น และ “Overwater Bar” ที่ให้บริการอาหารว่างและเครื่องดื่มกลางน้ำ
สำหรับกิจกรรม รีสอร์ตมีบริการดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก แล่นเรือใบ พายเรือคายัก และแพดเดิลบอร์ด นอกจากนี้ ยังมี “Meera Spa” ที่ให้บริการนวดสปา ทรีตเมนต์ ห้องซาวน่า และคลาสโยคะริมทะเล รีสอร์ตยังมีกิจกรรมสำหรับเด็ก เช่น คลาสศิลปะจากวัสดุธรรมชาติ การล่าขุมทรัพย์ใต้น้ำกับนักชีววิทยาทางทะเล และการเรียนตีกลองพื้นเมือง
Gili Lankanfushi Maldives มุ่งมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมีโครงการ Gili Veshi ที่เน้นการปกป้องความหลากหลายทางทะเลและส่งเสริมความยั่งยืน รีสอร์ตได้รับการรับรองจาก EarthCheck ในด้านการดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ รีสอร์ตยังเข้าร่วมโครงการ Protect Maldives Seagrass เพื่อปกป้องทุ่งหญ้าทะเล ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยสำคัญของสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด
ด้วยการผสมผสานระหว่างความหรูหราและความยั่งยืน Gili Lankanfushi Maldives จึงเป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและความสงบของมัลดีฟส์
จุดเด่น |
- ที่พักแบบวิลล่ากลางน้ำ: รีสอร์ทมีวิลล่าทั้งหมด 45 หลัง ทุกหลังตั้งอยู่บนผืนน้ำ ให้ความเป็นส่วนตัวและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
- การออกแบบที่กลมกลืนกับธรรมชาติ: การก่อสร้างใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและความสวยงามของเกาะ
- บริการระดับโลก: พนักงานมีความใส่ใจและบริการอย่างมืออาชีพ ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกประทับใจและต้องการกลับมาอีกครั้ง
- กิจกรรมหลากหลาย: มีกิจกรรมทางน้ำ เช่น ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก พายเรือคายัค และแล่นเรือใบ รวมถึงสปาสุดหรูสำหรับการผ่อนคลาย
- ความยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม: รีสอร์ทมีโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติและส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น กิจกรรมทำความสะอาดแนวปะการังและการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
- Underground Wine Cellar ทีมี 500 wine labels กว่า 10,000 wine bottles
- การเดินทางสะดวก: ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติมาเล่เพียง 20 นาทีโดยเรือเร็ว ทำให้การเดินทางไปยังรีสอร์ทสะดวกและรวดเร็ว
|
การเดินทาง |
- จากประเทศไทย: บินตรงสู่สนามบินนานาชาติเวลานา (MLE) ในมาเล่ (ประมาณ 4 ชั่วโมง 20 นาที)
- บริการรับส่ง: รีสอร์ทให้บริการรับส่งด้วยเรือสปีดโบ๊ทส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที
- เวลาเดินทางรวม: ประมาณ 5-6 ชั่วโมง (รวมเวลารอตรวจคนเข้าเมือง)
*โปรดทราบว่าเวลาเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับตารางเที่ยวบินและสภาพอากาศ |
ห้องพัก |
- The Private Reserve (1,700 sqm)
- Family Villa with Pool (385 sqm)
- Family Villa (350 sqm)
- Gili Lagoon Villa (210 sqm)
- Villa Suite with Pool (264 sqm)
- Villa Suite (210 sqm)
- Residence with Pool (374 sqm)
- Gili Lagoon Residence (250 sqm)
- Sunset Crusoe Residence (250 sqm)
- Island View Crusoe Residence (250 sqm)
- Residence (250 sqm)
*เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีสามารถพักห้องพักกลางน้ำได้ โดยมีราวกันตกติดตั้งเพิ่มเติม |
ร้านอาหาร |
- Kashiveli (อาหารนานาชาติ) ร้านอาหารหลักที่ตั้งอยู่บนชายหาด เปิดให้บริการอาหารเช้าและอาหารค่ำ โดยใช้วัตถุดิบสดใหม่จากท้องถิ่น มีการจัดธีมพิเศษในบางคืน เช่น ตลาดเอเชียและบาร์บีคิวซีฟู้ด
- By The Sea (อาหารญี่ปุ่นฟิวชั่น) ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขตร้อน มีวิวทะเล เปิดให้บริการ 5 คืนต่อสัปดาห์ นำเสนอซูชิ ซาชิมิ และเทปปันยากิ โดยใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น
- Overwater Bar (บาร์และอาหารนานาชาติ) บาร์ที่ตั้งอยู่เหนือทะเล เปิดให้บริการตลอดวัน เหมาะสำหรับรับประทานอาหารกลางวัน เครื่องดื่มยามพระอาทิตย์ตก และอาหารค่ำซีฟู้ด มีเมนูใหม่ที่รวมอาหารนานาชาติ อาหารพื้นเมือง และเมนู ‘Gili Grandma’ ที่นำเสนอสูตรอาหารครอบครัวจากเอเชีย
- Fini Foni (ไอศกรีมและของว่าง) ร้านไอศกรีมและของว่างริมสระว่ายน้ำ เสิร์ฟไอศกรีมโฮมเมด เครื่องดื่มเย็น และของว่างเบา ๆ
- Underground Wine Cellar (ไวน์และการจับคู่เมนู) ห้องเก็บไวน์ใต้ดินที่มีไวน์กว่า 500 ฉลากและขวดไวน์กว่า 10,000 ขวด เหมาะสำหรับการจัดชิมไวน์ ชีส และช็อกโกแลต หรือเมนูชิมอาหารสุดหรู
|
กิจกรรม |
- ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก: สำรวจปะการังและสัตว์ทะเลหลากสีสันรอบๆ รีสอร์ท
- กีฬาทางน้ำ: เช่น วินด์เซิร์ฟ, พายเรือคายัค, แล่นเรือใบคาตามารัน และแพดเดิลบอร์ด
- ทริปล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกและโลมา: เพลิดเพลินกับการชมโลมาและพระอาทิตย์ตกดิน
- ชั้นเรียนทำอาหาร: เรียนรู้การทำอาหารท้องถิ่นและนานาชาติจากเชฟมืออาชีพ
- โยคะและสปา: ผ่อนคลายด้วยการฝึกโยคะและบริการสปาที่ Meera Spa
- ชมภาพยนตร์ใต้แสงดาว: สัมผัสประสบการณ์ชมภาพยนตร์กลางแจ้งใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน
- กิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม: ร่วมโครงการฟื้นฟูปะการังและกิจกรรมเพื่อความยั่งยืน
- เล่นเทนนิสกับโค้ชมืออาชีพ: พัฒนาทักษะการเล่นเทนนิสในบรรยากาศธรรมชาติ
- สำรวจเกาะท้องถิ่น: เยี่ยมชมวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวมัลดีฟส์บนเกาะใกล้เคียง
- ประสบการณ์การนอนใต้แสงดาว: นอนหลับใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวบนระเบียงส่วนตัวของวิลล่า
|
อัตราค่าที่พัก